Passion Investment

การลงทุนในสิ่งที่ชอบ สิ่งที่รัก สิ่งที่หลงใหล คำนี้ไม่มีสูตรสำเร็จตายตัวแต่ในฐานะที่เป็นนักสะสมพรมเปอร์เชียคนหนึ่ง การลงทุนในพรม เปอร์เชียก็จัดว่าเป็นการลงทุนในสิ่งที่ชอบ ที่หลงใหลหรือ Passion Investment ผมขอแชร์ความคิดเห็นมุมมองในส่วนของการลงทุนของผมว่าเป็น Passion Investment อย่างไรทำไมการลงทุนนี้ถึงมามีส่วนในชีวิตของเราได้ มันบอกอะไรกับเรา มันเป็น Lifestyle อย่างหนึ่งใช่ไหม ผมจะเรียกสินทรัพย์เหล่านี้ว่าของสะสมเพราะผมเชื่อว่าการลงทุนประเภทนี้เกิดจากความคิดที่จะเก็บรักษา การมีอารมณ์ร่วมในการตัดสินใจในการลงทุน. เป็นความชอบเฉพาะตัวของบุคคลนั้นๆ เป็นรสนิยมส่วนตัว ผมจึงถือว่าสิ่งเหล่านี้ต้องเป็นของสะสม และมีมูลค่า คุณค่าของ Passion Investment มีขนาดไหน  Passion Investment มีหลายประเภททั้งรถยนต์โบราณ นาฬิกา รูปภาพ เฟอร์นิเจอร์โบราณ ไวน์งานศิลปะต่างๆ เครื่องประดับ พรมเปอร์เชีย  เปียโนโบราณ ของสะสมแต่ละประเภทมีลักษณะและธรรมชาติที่แตกต่างกันไปตาม Character ของของสะสมชิ้นนั้นๆ ตั้งแต่ความแปรผันของราคา มูลค่าความนิยม เสน่ห์, liquidity ในการ Trade , Margin ในการทำกำไรของของสะสมนั้นๆ การจะเลือกลงทุนในของสะสมอะไรควรจะเลือกจากความรู้สึกในความชอบก่อน ต้องเห็นคุณค่าของสิ่งที่เราคิดจะสะสมก่อนจึงจะไปศึกษาว่าของสะสมประเภทนั้นเหมาะแก่การนำเงินมาลงทุนหรือไม่อย่างไร เรารับเงื่อนไขที่เป็นอยู่ในตลาดปัจจุบันได้หรือไม่, ถ้าเรายังทำกำไรจากการเทรดออกไปไม่ได้เราพร้อมที่จะอยู่กับของสะสมประเภทนั้นโดยไม่เดือดร้อนแต่กลับมีความสุขในการครอบครองของสะสมเหล่านั้นหรือไม่ ถ้าเราประเมินและรับเงื่อนไขเหล่านี้ได้ ของสะสมนั้นก็จะให้คุณค่าทางด้านจิตใจกับเรา แต่ถ้าเรามองในเชิงของการทำกำไรแน่นอนว่าของสะสมนั้นนั้นควรจะมี Demand มากกว่า Supply เสมอ และของสะสมนั้นควรจะเป็นที่ต้องการของตลาด คนส่วนใหญ่รู้ว่าของสะสมนั้นมีมูลค่าด้วยชื่อของมันเอง ของสะสมนั้นควรจะมีจำนวนจำกัดเป็นที่หมายตาของคนทั่วไปเพราะว่ามีความงาม มีเอกลักษณ์เมื่อยลโฉมแล้วตื่นเต้นอยากค้นหา เรื่องราวประวัติความเป็นมา อยากศึกษาหาความรู้ อยากครอบครอง มีตลาดที่เคลื่อนไหวในประเทศอื่นทั่วโลกไม่ใช่แค่เพียงประเทศไทยหมายถึงว่าเราสามารถกระจายความเสี่ยงโดยการนำของสะสมนี้ไปขายที่ต่างประเทศได้อีก รวมถึงราคาตลาดจะถูกกำหนดชัดเจนขึ้นเนื่องจากว่าของสะสมประเภทนี้มักถูกกำหนดราคาจากความพึงพอใจของผู้ขาย แต่ถ้ามีราคาเปรียบเทียบจากส่วนอื่นๆของโลกจะทำให้ราคาไม่แกว่งจนเกินไป เสน่ห์ของ Passion Investment  การเสนอราคาขายก็มักเป็นไปตามความพึงพอใจของผู้ขายเป็นหลัก เพราะหากผู้ซื้อเค้าสนใจจริงๆเค้ารู้ว่าของสะสมนี้หายากในโลก เค้าก็จะยอมที่จ่ายในราคาที่แพงกว่าราคาตลาดโลกอย่างแน่นอนเนื่องจากของสะสมเหล่านี้มีจำนวนจำกัดยกตัวอย่างเช่นClassic Ferrari  รุ่น 250 GTO, Jaguar X Type  ผู้ที่ครอบครอง รถคลาสสิคคาร์ป็นผู้ที่มีเงินเหลือกินเหลือใช้อย่างแน่นอน การที่จะหอบเงินไปซื้อรถเหล่านี้คิดว่าใครจะขายง่ายๆ ในเมื่อผู้ครอบครองส่วนใหญ่เค้าไม่ได้เดือดร้อน มันเลยเรื่องพื้นฐานของมูลค่าเงินไปแล้วมันเป็นเรื่องของความพอใจ บางทีเงินก็ซื้อไม่ได้นั่นแหละที่ความสนุกของการสะสมสิ่งเหล่านี้เข้ามามีบทบาทในการลงทุนประเภท Passion Investment  ดังนั้นของที่มีอยู่จำกัดในโลกจึงเป็นที่ต้องการของที่นักสะสมอยู่เสมอยกตัวอย่างเช่นพรมเปอร์เชียในยุคก่อน 1970 พรมเปอร์เชียเหล่านี้มีความสวยงามอย่างยิ่ง พรมเหล่านี้มักจะถูกผลิตจากการสั่งของ Shar หรือกษัตริย์เปอร์เชียในสมัยนั้น, ความวิจิตรบรรจงในการถักทอและการออกแบบรวมถึงคุณภาพของขนแกะที่นำมาถักทอทำพรมจึงมีส่วนสำคัญที่ทำให้พรมนี้หายากในโลก จากการบันทึกในปี 2016 โดยบริษัททางด้านอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของโลก บริษัท Knight Frank  ได้จัดทำดัชนี Knight Frank’s Luxury Investment Index ( KFLII) เป็นประจำทุกปี  โดยในปี 2016 พบว่าของสะสมที่มีการเพิ่มขึ้นของมูลค่ามากที่สุดในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาคือรถยนต์ซึ่งมีมูลค่าเพิ่มถึง 467% ตามมาด้วย Wine  245% และงานศิลปะ 206% Passion Investment  คือ Lifestyle  Passion Investment  คือ Lifestyle อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ การลงทุนในสิ่งเหล่านี้ต้องใช้ความชอบ ต้องใช้พละกำลังในการศึกษาค้นคว้าหาข้อมูล ต้องใช้แรงกายแรงแรงใจ, ต้องใช้ความคิดในการแบ่งสันปันส่วนนำเงินออมมาลงทุน นอกจากนี้ที่สำคัญที่สุดคือต้องใช้ไหวพริบในการเสาะแสวงหาสิ่งที่ดีที่สุดนำมาครอบครองและอยู่กับมัน สิ่งเหล่านี้หลีกเลี่ยงไม่ได้เลยที่จะต้องสละเวลาจนถึงขั้นเรียกว่านี่คือส่วนหนึ่งของชีวิต พอครอบครองแล้วก็ต้องรู้จักนำของสะสมเหล่านี้มาใช้ให้เกิดความสุข และดูว่ามีโอกาสจะทำกำไรในอนาคตได้หรือไม่ Passion…

ของสะสมที่เป็นศิลปะโบราณ

Art & Antiques เป็นสิ่งที่มีคุณค่า สะท้อนความคิด รสนิยมและไลฟ์สไตล์ของผู้สะสม ที่นอกจากจะให้คุณค่าต่อจิตใจแล้ว ยังเป็นช่องทางการลงทุนที่สร้างผลกำไรได้อีกทางหนึ่ง ที่เรียกว่า Passion Investment ผม เอ-จิตรกร มงคลธรรมในฐานะนักสะสมพรมเปอร์เซีย ผมมองว่าเพียงเรารู้จักคุณค่าของของสะสมเหล่านั้น ซึ่งจะมีประวัติศาสตร์ที่ผ่านกาลเวลาเป็นร้อยเป็นพันปี นั่นคือสิ่งที่น่าค้นหาและเป็นเสน่ห์ที่จะทำให้คนที่เข้าถึงความงามนั้นอยากครอบครอง Art & Antiques ที่มีคุณค่าหายาก เหมาะแก่การลงทุน หรืออย่างน้อยที่สุดต้องสร้างความสุขแก่ผู้ครอบครอง ได้ Art Appreciation ในการเสพงานศิลป์ หรือนำไปประดับตกแต่งบ้าน งานศิลปะโบราณที่ผมจะเลือกมาต้องมีข้อมูลที่มาที่ไป มีประวัติความเป็นมา มีชื่อผู้ครอบครอง และเป็นของแท้ทุกชิ้น ยิ่งเป็นของสะสมที่เป็นของโบราณแล้ว นับว่าเป็นความยากยิ่งในการที่จะค้นคว้าเอาข้อมูลมาเผยแพร่ แต่ก็ถือว่าคุ้มค่าในการลงทุนเพราะของสะสมเหล่านี้มีมูลค่าสูงอย่างยิ่ง นับวันก็ยิ่งหาไม่ได้แล้ว อีกอย่างที่สำคัญคือขึ้นชื่อว่าเป็นศิลปะโบราณ แล้ว สิ่งเหล่านี้นอก จากมูลค่า ของศิลปะเหล่านี้จะสูงยิ่งแล้ว ยังมีคุณค่าของความเป็นคนไทยที่จะส่งต่อความรู้ให้กับรุ่นลูกรุ่นหลานได้อีกต่อไป ทำไมหลายๆคนจึงอยากจะมีของสะสม คำว่าของสะสมอาจจะเป็นอะไรก็ได้ที่ผู้สะสมเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้ให้คุณค่าทางด้านจิตใจ ไม่เกี่ยวเนื่องกับผู้ใด แต่ในที่นี้จะพูดถึงของสะสมที่สามารถทำราคาได้ ทำมูลค่าเพิ่มได้ทุกๆปีด้วยตัวของมันเอง ของสะสมทั้งหลายโดยทั่วๆไปแล้วต้องเป็นที่ยอมรับของตลาดสิ่งที่สำคัญที่สุดคือต้องเป็นของแท้ มีประวัติความเป็นมา มีที่มาที่ไปเป็นที่ต้องการของเหล่านักสะสม สิ่งเหล่านี้มีวงจรของมันบางครั้งเป็นที่ต้องการมากราคาก็ขึ้นไปสูง บางช่วงไม่เป็นที่ต้องการราคาก็อาจจะตกลงมา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นชื่อว่าของสะสมการซื้อและการขายจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อผู้ซื้อและผู้ขายตกลงกันที่จุดสมดุลย์ Demand And Supply  หลายหลายคนจึงอยากมีของสะสมเพราะเชื่อว่าของสะสมเหล่านี้สามารถสร้างมูลราคาเพิ่มให้ได้ในอนาคต เมื่อเก็บไว้ถึงจุดหนึ่งแล้วอยากขายออกราคาที่ขายออกควรจะทำกำไรให้กับผู้ครอบครองนั้นได้  การมีของสะสมที่สำคัญที่สุดจึงต้องมีความรู้ เพราะความรู้นี้เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการออกไปเสาะแสวงหาเพื่อให้ได้ของแท้มาครอบครอง เพื่อให้รู้ทุกๆมิติของการครอบครอง ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาของการผลิต ผู้ผลิต สภาพของของสะสม เนื้อที่ใช้ผลิต ความต้องการของตลาด ราคาโดยประมาณ ผู้ที่เคยครอบครอง เพราะขึ้นชื่อว่าของสะสม ชื่อเสียงและ Credit เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ดังนั้นความรู้ในของสะสมจึงเป็นสิ่งที่ต้องนำมาเล่ามาตอบให้กับผู้ซื้อหรือผู้สนใจให้ได้ ไม่เพียงแต่แค่นั้นยังต้องรู้ถึงตลาดรู้ถึงความต้องการของนักสะสมรู้ถึง Supply ของของชิ้นนั้นนั้น ว่าหายากไหมหรือที่มีทั่วไปสภาพของสมบูรณ์ขนาดไหนหากสภาพของโดยทั่วไปไม่มีความสมบูรณ์แต่เรามีของที่มีความสมบูรณ์ก็ถือว่าเราได้เปรียบคนอื่นอื่น สิ่งเหล่านี้ทั้งหมดจึงต้องใช้ประสบการณ์และความรู้อย่างยิ่ง ของสะสมที่เป็นโอ่งโบราณสมัยสุโขทัย ชิ้นแรกเป็นโอ่งสังคโลกสมัยสุโขทัย ในพุทธศตวรรษที่ 19 สูง ถึง 1.20 เมตร ส่วนตัวโอ่งกว้าง 1.28 เมตร ถือว่าใหญ่ที่สุดที่เคยพบในประเทศไทย โอ่งดินเผาทรงมะเฟืองใบนี้มีอายุราว 600 ปี เป็นเครื่องปั้นเคลือบดินเผาโบราณชิ้นเอกของแผ่นดินสยามที่น้อยคนนักจะมีโอกาสได้ยล สภาพสมบูรณ์มาก จึงอาจจัดเป็นโอ่งสังคโลกใบใหญ่ที่สุดที่เคยถูกค้นพบในไทยก็เป็นได้ และยิ่งอัศจรรย์ใจเมื่อคิดย้อนไปถึงช่างปั้นยุคโบราณที่สามารถขึ้นรูปโอ่งขนาดใหญ่เกินตัวคนได้ด้วยมือล้วนๆ จากนั้นนำเข้าเตาเผาจนได้เนื้อดินแกร่ง ซึ่งยังคงแข็งแรงทนทานแม้ผ่านกาลเวลามาหลายศตวรรษคุณลักษณะของชิ้นงานนี้คล้ายได้รับอิทธิพลจากศิลปะเครื่องปั้นของขอม (เขมรโบราณ) เจืออยู่บ้าง แต่ก็ถือเป็นโอ่งทรงสุโขทัยที่งดงามหายาก ด้วยปากแคบ ไหล่กว้าง แล้วคอดลงสู่เชิงฐานอย่างลงตัว ผิวเคลือบทึบยังคงความเงาวาวน้ำเคลือบสีน้ำตาลที่ถูกราดรินไห้ไหลลงเป็นริ้วลายทั่วทั้งใบนั้นสวยงาม มีเสน่ห์ตามแบบฉบับช่างสมัยสุโขทัยขนานแท้ โอ่งใบนี้ไม่อาจเรียกได้ว่าเป็นของหายาก แต่ควรเรียกว่าเป็นโบราณวัตถุที่หาไม่ได้อีกแล้วจะถูกต้องกว่า และควรค่าแก่การเป็นของสะสมที่มีมูลค่าอยู่เหนือกาลเวลา ของสะสมที่เป็นสร้อยคอทองคำโบราณศิลปะขอม สร้อยคอทองคำโบราณ เป็นศิลปะขอม สมัยสมโบร์ไพรกุก  (Sambor Prei Kuk) พุทธศตวรรษที่ 12-13 นักโบราณคดีเชื่อกันว่าสมัยสมโบร์ไพรกุกเมื่อพันกว่าปีที่แล้ว เป็นยุคที่ทำเครื่องทองได้สวยที่สุดในเอเชีย เครื่องประดับมีความวิจิตรบรรจง เนื้อทองคำเปล่งปลั่งจากการถลุงทองได้เต็มดี สมโบร์ไพรกุกเป็นยุคต้นๆ ของอาณาจักรขอมหลายร้อยปีก่อนจะถึงสมัยบาปวน นครวัด และบายนที่เรารู้จักกันดี เก่าแก่กว่าอาณาจักรสุโขทัยราว 600 ปี ในสมัยนั้นนับถือศาสนาฮินดู เครื่องประดับต่างๆ จึงมีเอกลักษณ์ของศิลปะอินเดียที่มีรูปเคารพเทพเจ้าฮินดูเป็นองค์ประกอบของลวดลายและถือเป็นของสูง สร้อยคอทองคำเส้นนี้เป็นโบราณวัตถุเลอค่ามีอายุเก่าแก่กว่า 1,000 ปี สันนิษฐานว่าเป็นของชนชั้นกษัตริย์ในอาณาจักรขอม มีความยาว 28 นิ้ว มีน้ำหนักมากถึง 270 กรัม จี้ห้อยคล้ายทับทรวงของไทยนั้นงามสง่ายิ่งนัก มีขนาดใหญ่ 3.5×1.75 นิ้ว น้ำหนักมากด้วยเนื้อทองตัน ลวดลายดุนทองมีมิติสุดวิจิตรออกแบบเต็มพื้นที่ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง แต่ได้องค์ประกอบและสัดส่วน ด้านหน้าเป็นรูปพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณบนฐานกลีบบัว ใบหน้าคมชัดมากประดับกลางด้วยแก้วหล่อเม็ดใหญ่สลักลายลงบนเนื้อแก้ว ด้านหลังเป็นเทพทรงกระบือมีลายก้านบัว ด้านใต้ยังประดับด้วยแก้วสีทั้งหมด 5 เม็ด ส่วนสายสร้อยนั้นถักร้อยด้วยลายเสาสิบกว่าเสาแบบโบราณ จึงแข็งแรงแน่นหนาสมบูรณ์มาก หากใครได้ครอบครองสร้อยคอทองคำโบราณเส้นนี้ก็เท่ากับว่าได้ครอบครองสมบัติล้ำค่าที่ไม่มีใครเทียบเคียง ซึ่งกาลเวลาจะนำพามูลค่าให้เพิ่มทวีคูณ ของสะสมที่มีมูลค่าทางประวัติศาสตร์ของไทย ในเมืองไทย ยังมี Art & Antiques อีกจำนวนไม่น้อยที่น่าสนใจและน่าสะสม ซึ่งอย่างที่บอกสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เพียงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ แต่มีมูลค่าในตัวเองด้วย เพราะของสะสมเหล่านี้เชื่อว่ามีจำนวนที่หลงเหลืออยู่ในประเทศไทยน้อยจริงๆ หาชมได้ยาก, ของสะสมโบราณสองชิ้นนี้มีที่มาที่ไปมีเจ้าของผู้ครอบครองที่ชัดเจน, และงานของของสะสมโบราณทั้งสองชิ้นนี้ก็มีความสมบูรณ์อย่างยิ่ง, เชื่อว่าคุณค่าของของทั้งสองชิ้นนี้ย่อมสูงขึ้นไปเรื่อยเรื่อยตามกาลเวลาแต่สิ่งที่มีมากกว่ามุระค่าของของชิ้นนี้ก็คือประวัติศาสตร์และความรู้ทางด้านศิลปะที่อยู่ในแผ่นดินไทยที่นับวันจะหมดไปหมดไปตามกาลเวลา นับว่าเราโชคดีอย่างยิ่งที่ยังมีเขาเหล่านี้หลงเหลือให้เราได้ชมกัน หากสนใจที่จะครอบครองหรือพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับของสะสมที่เป็นศิลปะโบราณ โปรดติดต่อมาได้นะครับ จิตรกร  มงคลธรรมFounder Art On Da Floor

พรม 10,000,000 บาท มีดียังไง

แน่นอนว่าราคาขนาดนี้ต้องเป็นพรมจัดว่า สวยที่สุด เป็นพรมที่นักสะสมเมื่อเอ่ยถึงชื่อแล้วต้องรู้จักและอยากได้มาครอบครองสักผืนในชีวิต คงปฏิเสธไม่ได้ว่าพรม Amoghli พรมที่จัดว่ามีคุณภาพ มีความสวยงาม มีความเป็นราชวงศ์และราคาแพงมากผืนหนึ่งในบรรดาพรมเปอร์เซียทั้งหมด ทำไมพรม Amoghli จึงมีราคาแพง เมื่อพูดถึงตระกูล Amoghli ผู้ผลิตพรมแล้วตระกูลนี้อยู่ที่เมือง Mashad ภาคเหนือของ Persia , ตระกูลนี้จะเป็นผู้ผลิตให้กับAristocrat หรือชนชั้นขุนนางไปจนถึง Shar กษัตริย์ผู้ครองเปอร์เชีย, ด้วยความที่เป็นMaster Weaver หรือผู้ผลิตผพรม อยู่ใน Royal Court ชื่อเสียงของตระกูลAmoghli  จึงการันตีความสำเร็จในยุคนั้น คือช่วงประมาณค.ศ.1930   สนะพิเศษของพรมตระกูลนี้คือมีสี Background หรือสีพื้นของพรม เป็นสีงาช้าง Ivory , สีที่ขอบพรมก็เช่นกันคือเป็นสีงาช้าง, อาจมีสี Navy Blue และสี Burgandyผสมอยู่ พรมผืนนี้มีขนาดใหญ่คือ กว้าง 4.70 เมตร ยาว 3.2 เมตร, สภาพถือว่า 90% Mint Cindition , design เป็น One of A Kind   หาได้ยาก โดยเฉพาะสภาพ Condotion ที่ยังสมบูรณ์อย่างนี้. สียังมีความสด, สภาพของขนแกะ ถือว่าดีเยี่ยม , เมื่อเทียบกับเวลาผลิตคือผลิตปีค.ศ. 1930  น่าจะหาสภาพนี้ได้ยากมากๆในโลกนี้ ทำไมพรม Amoghli จึงเป็นที่ต้องการ ของนักสะสมพรมเปอร์เชีย เราต้องไม่ลืมว่าพรมที่ดีที่สุดจะอยู่ในช่วงค.ศ. 1920 ถึง 1970 แสดงว่าซัพพลายของพรมยุคนั้นมีจำนวนจำกัดในโลกนี้, เหตุที่พรมยุคนั้นมีความสวยงามก็เนื่องจากว่าศิลปิน, ดีไซน์เนอร์ หรือผู้ถักทอพรมเองก็แล้วแต่ มีความละเอียดอ่อนไม่มีชีวิตที่เร่งรีบ ทำงานด้วยความคิดในเชิงศิลปะนำหน้าธุรกิจ, สภาพของจนแกะในเวลานั้นก็ไม่มีมลพิษเหมือนสมัยนี้, การผลิตพรมแต่ละผืนในยุคนั้นจึงมีความละเมียดละไมพิถีพิถัน. และเป็นยุคของการสร้างชื่อเสียงของผู้ผลิตเองทางนั้นคุณภาพของขนแกะเองจึงมีความนุ่ม พรมในสมัยนั้นมีความแข็งแรงทนทาน เนื่องจากการถักทอมีความละเมียดละไม สีที่ใช้ย้อมก็เป็นสีธรรมชาติ ใช้เวลาย้อมเป็นปีๆ  ว่าจะตากแห้งและนำมาทักทอก็ไม่ได้เร่งรีบทุกอย่างจึงลงตัวและมีความสวยงามเนื่องจากพรมในสมัยนั้นถือว่าเป็นศิลปะชั้นเลิศของ Persia  ราคาพรม Persia  ทะลุไปถึง 10,000,000 บาท จริงหรือ จะเห็นได้ว่านักสะสมพรมมักจะต้องการพรมที่ดีมาเก็บสะสมไว้เพื่อความสุขใจ เพื่อแสดงถึงความสำเร็จในการครอบครอง บางทีมีเงินก็หาซื้อไม่ได้, สิ่งเหล่านี้คงไม่ต่างจากการเก็บพระเครื่องหรือของสะสมชนิดอื่นๆ ที่รู้ว่าเมื่อเวลาผ่านไปแล้วยังไงราคาก็จะขึ้นและเป็นที่ต้องการของตลาดอยู่เสมอ ปัจจัยเหล่านี้ทำให้ราคาถูกดันขึ้นไปสูงขึ้นเรื่อยเรื่อย, คงไม่ต่างกับพระเครื่องที่ผลิตออกมาในยุคนั้นๆราคาไม่ได้สูงเลย แต่ปัจจุบันเป็นที่ต้องการของตลาดราคาถีบขึ้นไปบางองค์มีราคามากกว่า 10 ล้านบาทด้วยซ้ำ นี่คือเหตุผลว่าทำไมราคาพรม 10 ล้านบาทจึงมีจริงๆในตลาดโลก, และแนวโน้มราคาก็ยังคงสูงขึ้นไปเรื่อยๆตราบใดที่ คนจัดให้พรมเปอร์เซียเป็นหนึ่งในของสะสมที่มีมูลค่าชิ้นหนึ่งของชาวโลก ข้อดีของการมีพรมเปอร์เซียราคา 10 ล้านบาท เสน่ห์ของการครอบครองพรมเปอร์เซียอยู่ที่ต้องนำเอาออกมาใช้ ไม่อย่างนั้นแล้วการม้วนเก็บพรมอาจเกิดความเสียหายได้ หากไม่รู้วิธีเก็บหรือเก็บไม่ดี การนำเอาพรมเปอร์เซียออกมาใช้ทำให้คนขนของพรมมีความเงางามคุณภาพของพรมเมื่อถูกเท้าเหยียบจะยิ่งมีน้ำมันออกมาโดยไม่ต้องกลัวว่าจะสึกหรอ, แต่กลับทำให้พรมมีสีที่สวยขึ้นสวยขึ้น, ผู้ครอบครองพรมระดับนี้หากปูในบ้านเมื่อมีแขกเข้ามาจะรู้ทันทีว่าเจ้าของบ้านมีของที่ไม่ธรรมดาวางโชว์อยู่ในห้อง,,อาจนำมาซึ่งความภาคภูมิใจของเจ้าของและมีหัวข้อในการสนทนา, แน่นอนว่าการซื้อพรมเก็บระดับนี้ต้องเป็นเย็นๆ ดังนั้นไม่ต้องกลัวว่าจะมีการขายขาดทุนเนื่องจากใครๆก็อยากได้พรม Amoghli มาครอบครอง เหตุผลนี้เองที่ทำให้เจ้าของพรม Amoghli ในโลกนี้ต่างมีความภาคภูมิใจแล้วไม่ค่อยจะนำเอาออกมาขายเท่าไหร่นัก ก็ไม่ต่างกับการมี Ferrari โบราณไว้ในครอบครองเพราะเงินไม่ใช่ปัจจัยแต่เป็นความภาคภูมิใจที่เศรษฐีทุกคนก็ไม่สามารถมีได้ เหมือนกับคำว่ามีเงินก็หาซื้อไม่ได้, นี่เป็นการยั่วยวน ยั่วโทสะเพื่อนบ้านที่เข้ามาชมทุกครั้ง  หากอยากทราบว่าพรมเปอร์เชียราคา 10 ล้านบาทเป็นอย่างไรติดต่อมาได้นะครับ จิตรกร มงคลธรรมนักสะสมพรมเปอร์เซีย

ของสะสมที่เป็นพรมเปอร์เชีย

ของสะสมที่เป็นพรมเปอร์เชีย ก่อนอื่นเลยคำว่าของสะสมเป็นข้อความที่ค่อนข้างกว้างแต่ถ้าเราพูดถึงของสะสมที่มีมูลค่าเพิ่มเมื่อเวลาผ่านไป. ในทีนี้เราจะพูดถึงของสะสมที่เป็นที่ต้องการของตลาด. มีราคาตลาดจริง มีอุปสงค์และอุปทาน, ซึ่งเราอาจจะพอคุ้นเคยอยู่บ้างในการสะสมรถโบราณ,สะสมเครื่องทองโบราณ สะสมนาฬิกา สะสมรูปภาพ, สะสม Wine วันนี้เราจะมาโฟกัสในสิ่งที่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยจะพูดถึง, แต่สิ่งนี้สามารถทำเงินให้ได้อย่างอัศจรรย์และยังคงเป็นที่ต้องการของตลาดอยู่เพียงแต่เมืองไทยอาจจะยังไม่ค่อยคุ้นเคยกันนัก, แต่ถ้าไปประเทศ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, ออสเตรเลีย, สิงคโปร์, แคนาดา ประเทศเหล่านี้จะคุ้นเคยกับพรมเปอร์เชียเป็นอย่างดี ทำไมพรม เปอร์เชียจึงน่าสะสม ของสะสมต่างๆมีกฎอยู่ข้อหนึ่งคือเมื่อเป็นของสะสมแล้วราคาการซื้อและขายอยู่ที่ความพอใจของผู้ซื้อและผู้ขายเท่านั้น นั่นหมายความว่าจะไม่มีการซื้อขายเลยถ้าไม่มีความยินยอม พอใจในจุดตัดของทั้งสองฝ่าย เหตุนี้เองผู้ซื้อมักจะพูดว่าผู้ขายอยากจะตั้งราคาเท่าไหร่ก็ได้ไม่ผิด, ถ้าผู้ขายเห็นว่าของที่ตนถือครองอยู่นั้นมีมูลมากกว่าราคาที่ผู้ซื้อเสนอผู้ขายก็จะไม่มีวันยอมขายยกเว้นเสียจากว่าเบื่อหรือร้อนเงินหรืออยากแปลงเป็นเงินเพื่อนำไปซื้อสิ่งของอื่นดังนั้นขึ้นชื่อว่าของสะสมแล้วควรที่จะเป็นเงินเย็นเท่านั้นเพราะการเกิดการซื้อขายไม่ได้เป็นสิ่งง่ายเลยโดยเฉพาะการซื้อขายงานที่มีความเป็นศิลปะเข้ามาเกี่ยวข้อง. ด้วยเหตุนี้เองของสะสมที่สะสมอยู่มีบางประเภท. ยิ่งถือครองนานยิ่งมีมูลค่า เพิ่มขึ้น,ยิ่งสวยขึ้นของสะสมนี้คือพรมเปอร์เชีย เหตุที่ยิ่งใช้หรือถือครองนานมูลค่าของราคาพรมยิ่งสูงขึ้นเพราะว่าเมื่อใช้มากขึ้นขนของพรมเปอร์เชียจะมีความเงางามมากขึ้นไม่ค่อยมีการสึกหรอเหมือนการสะสมรถยนต์โบราณ ไม่ต้องอุ่นเครื่องทุกวันไม่ต้องนำรถออกไปวิ่งค่า Maintanance จึงไม่ได้สูงเท่ากับการสะสมรถยนต์โบราณ, และหากยิ่งมีอายุมากขึ้นเท่าไหร่ราคาพรมเปอร์เซียก็จะสูงขึ้นเท่านั้นในที่นี้เราพูดถึงพรมเปอร์เซียที่มีสภาพที่ดี หรือ Good Condotion, เสน่ห์อีกอย่างของพรมปอร์เซียในการเป็นของสะสมคือเราสามารถนำออกมากางให้ลูกค้าดูได้เลย หรือเคลื่อนย้ายไปตามที่ต่างๆโดยที่ไม่ต้องระวังว่าจะแตกหัก สึกหรอ ไม่มีความเสี่ยงในการขนย้าย, ถ้าลูกค้าอยากทดลองว่าพรมเปอร์เซียที่เค้าสนใจจะซื้อเอาไว้ตกแต่งบ้านมันสวยจริงหรือเปล่า เราสามารถนำไปแสดงไปวางให้เค้าเห็นได้เลย ว่าเข้ากับการตกแต่งบ้านเขาหรือไม่ การตัดสินใจจะง่ายขึ้น ส่วนการทำความสะอาดพรมไปเชียร์ก็แค่ซักโดยบริษัทที่รับซักพรม เฉลี่ยแล้วสามปีต่อครั้งถ้าไม่ได้มีความสกปรกอะไรมากมายหรือสามารถดูดฝุ่นย้อนศรแนวขนของพรมได้ประมาณเฉลี่ยเดือนละครั้ง ของสะสมที่เป็นพรมเปอร์เซียกับราคาในตลาด การซื้อพรมเปอร์เชียดีๆสักผืนเก็บเอาไว้ มั่นใจได้เลยว่าสุดท้ายแล้วยังไงก็ขายได้และทำราคา ได้. ส่วนใหญ่ราคาจะขึ้นทุกๆปีโดยเฉลี่ยปีละประมาณ 20 ถึง 30% ถ้าสภาพเศรษฐกิจเป็นสภาวะที่ปกติ…

พรมเปอร์เชียคือพรมอะไร

พรมเปอร์เชียคือพรมอะไร พรมเปอร์เชียเป็นพรมที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน ,บางผืนมีอายุถึง1000 ปีแต่พรมเหล่านั้นส่วนใหญ่จะเก็บอยู่ในพิพิธภัณฑ์ แต่ปัจจุบันพรมที่มีมูลค่าและสามารถใช้ได้จริง และจะได้กล่าวถึงในบทความนี้ ในการนำมาตกแต่งบ้าน หรือเป็นการลงทุนในเชิง Passion Investment ,หรืออาจเป็นพรมที่เราหาได้ตามร้านขายพรมชั้นนำทั่วไป  ซึ่งพรมเหล่านี้สามารถมีอายุได้ มากกว่า100ปีและยังคงมีสภาพที่ดีอยู่ เนื่องจากพรมเหล่านี้มีความแข็งแรงทนทานเพราะการถักทอด้วยมือและขนที่ใช้ถักทอก็คือขนแกะ คุณภาพดี สีที่ย้อมเป็นสีจากธรรมชาติมีการตากแห้งอย่างสนิทใช้เวลาอย่างน้อยประมาณสองถึงสามปีอีกทั้งการถักทอแต่ละผืนเฉลี่ยแล้วประมาณสามถึงสี่ปีนี่คือเหตุผลที่ทำไมพรมเปอร์เชียจึงมีความแข็งแรง ทนทาน สีไม่เคยซีดจาง  ยิ่งใช้ยิ่งเหยียบยิ่งสวย ยิ่งเหยียบยิ่งเพิ่มความเงางามอีกทั้งยังมีคุณค่าแก่จิตใจ ที่สำคัญยังมีมูลค่าเพิ่มขึ้นหากเรารู้จักที่จะเลือกซื้อหรือเก็บสะสมในผืนที่เป็นที่ต้องการของตลาด เป็นที่มั่นใจว่าราคาจะเพิ่มขึ้นเรื่อยเรื่อยอย่างแน่นอนในแต่ละปี  ดังนั้นการมีความรู้ในพรมเปอร์เชียจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง พรมเปอร์เชียแบ่งออกเป็นกี่ประเภทอย่างไร พรมเปอร์เชียแบ่งออกเป็นสองประเภทใหญ่ใหญ่ คือ  1.) เป็นพรมที่ผลิตมาจากเมืองหรือที่เรียกว่า City Carpet  2.) พรมที่ผลิตมาจากชนเผ่าที่เร่ร่อนไปตามที่ต่างๆหรือเรียกว่า Nomad Carpet  ในบทความนี้จะกล่าวถึงเฉพาะพรมที่ผลิตมาจากเมืองหรือCity Carpet เท่านั้น พรมเปอร์เชีย ที่ผลิตมาจากเมืองจะแบ่งเรียกชื่อตามชื่อเมืองที่ผลิตพรมนั้นนั้น, และแต่ละเมืองที่ผลิตก็จะมีเส้นสายลายเส้นแตกต่างกันไปตามวัฒนธรรมของเมืองนั้นนั้น  พรมที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักและยังเป็นที่ต้องการของตลาดส่วนใหญ่มักจะเป็นพรมที่มาจากเมือง ยกตัวอย่างเช่นพรมที่มาจากเมือง Isfahan, Trabriz  , Mashad,Tehran, Qum, Kazvin เป็นต้น  จะซื้อพรมเปอร์เซียอย่างไรดี ชื่อของพรมเหล่านี้อาจจะพอ ได้ยินผ่านหูหรือคุ้นหูของเราบ้าง, สิ่งที่สำคัญที่สุดคือต้องศึกษาว่าแต่ละเมืองมีเส้นสายลายเส้นหรือวัฒนธรรมการให้สีหรือการออกแบบอย่างไร, เราถูกโฉลกกับสีนั้นนั้นหรือชอบรายนั้นนั้นจริงๆหรือเปล่าอย่าซื้อเพราะผู้ขายพยายามเชียร์และบอกว่าพรมผืนนี้ดีหรืออย่าซื้อเพราะเห็นว่ามันแพง, ให้เชื่อสัญชาตญาณตัวเองก่อนว่าเราจะอยู่กับพรมผืนนั้นนั้นไปอีกเป็น…

พรมเปอร์เชียมีคุณค่าอย่างไร

พรมเปอร์เชียมีคุณค่าอย่างไร จริงๆแล้ว พรมเปอร์เซียมีการถือกำเนิดมายาวนานมาก, มีมามากกว่า 1000 ปี, ซึ่งพรมเหล่านั้นหายากมากหากยังคงเหลืออยู่ส่วนใหญ่ก็จะอยู่ในพิพิธภัณฑ์, เราจะไม่กล่าวถึงพรมเหล่านั้น, ในที่นี้เราจะกล่าวถึงพรมที่ถือกำเนิดมาในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 เมื่อพูดถึงพรมเปอร์เซีย แล้ว คนไทยส่วนใหญ่อาจจะยังไม่ค่อยมีความคุ้นเคยเกี่ยวกับเรื่องพรมเปอร์เชียมากนัก.  ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ถือเป็นยุคที่ก่อเกิดพรมเปอร์เชียที่ได้รับการยอมรับและมีชื่อเสียงมากที่สุดในโลกหนึ่งในนั้นคือพรมเปอร์เชียจากเมือง Tehran ซึ่งป็นเมืองหลวงของประเทศอิหร่านที่บรรดานักสะสมพรมเปอร์เชียให้ความสนใจอย่างมาก เพราะพรมเปอร์เซียที่เมือง Tehran  มีการถ่ายทอดลวดลายในเชิงความคิดสร้างสรรค์และมีการถักทอด้วยมืออย่างประณีตสวยงามด้วยช่างฝีมือที่มีทักษะชั้นสูง   ในอดีตพรมเปอร์เชียจาก Tehran ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักรู้จักอย่างแพร่หลาย เนื่องจากมีการผลิตจากการ ถักทอด้วยมือและออกแบบเฉพาะแต่ละผืนจึงทำได้จำนวนจำกัด การผลิตเป็นแบบ small scale production และใช้ในที่อยู่อาศัยของชนชั้นสูง “Aristocrat” เท่านั้น  จึงยากที่จะพบปะได้ทั่วไปเหมือนพรมสมัยใหม่   พรมเปอร์เซียจากเมือง Tehran มีคุณค่าอย่างไร พรมเปอร์เชียจาก Tehran จะมีสีสันที่แปลกใหม่และโดดเด่น การออกแบบลวดลายมักจะเป็นรูปทรงของแจกันหรือเป็นลายสวน หรือลายดอกไม้. เพราะเหตุนี้เอง พรมเปอร์เชียจากเมืองTehran จึงเป็นที่หมายตาของนักสะสมเนื่องจากมีอยู่ในจำนวนจำกัด นักสะสมมักจะเสาะแสวงหาพรมเปอร์เชียจาก Tehran ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ที่มีความสมบูรณ์มาสะสม เพราะเป็นยุคที่มีการถักทอพรมในเชิงของงานศิลปะ ไม่มีภาวะเร่งรีบ แล้วขนของแกะก็เป็นขน ที่สมบูรณ์สวยงามที่ไม่มีมลพิษเหมือนอย่างเช่นในปัจจุบัน.  ความต้องการเหล่านี้เองทำให้ราคาของพรมเปอร์เซียจากเมืองTehran จึงมีมูลค่าสูงขึ้นเรื่อยๆ. นอกจากพรมเปอร์เชียจะเป็นของตกแต่งบ้านได้สวยงามหรูหราหายากแล้วยังบ่งบอก สะท้อนถึงรสนิยมของผู้ที่ได้ครอบครองอย่างดีเยี่ยม ราคาที่สูงขึ้นต่อเนื่องตามระยะเวลาทำให้การซื้อพรมเปอร์เซียเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการลงทุนเพราะการซื้อพรมเปอร์เชียคือการลงทุนอย่างหนึ่งในเชิง Passion Investment  Passion Investment กับพรมเปอร์เชีย เมื่อพูดถึง Passion Investment แล้วการลงทุนในพรมเปอร์เชียจัดเป็นการลงทุนในPassiin Investment อย่างหนึ่งเนื่องจากว่าเป็นการลงทุนในสิ่งที่ชอบในสิ่งที่สามารถสร้างความสุขให้ได้นอกจากนี้แล้ว การเลือกซื้อพรมเปอร์เซียที่มีความต้องการในตลาดสูงจึงจัดเป็นการลงทุนที่มีโอกาสทำกำไรกลับมาได้ เนื่องจากพรมเปอร์เซียเป็นของที่มีมูลค่าและยิ่งถ้าเรามีพรมเปอร์เซียที่เป็นที่ต้องการของตลาดในกรณีนี้คือพรมเปอร์เซียจากเมือง Tehran ดังนั้น เราต้องมีความรู้ในการที่จะเลือกซื้อพรมว่าพรมไหนเป็นที่ต้องการของตลาด, ในอนาคตเราจึงจะสร้างมูลค่าเพิ่มได้, นอกจากนี้เรายังต้องชอบพรมนั้นด้วยเพราะมันอาจต้องใช้ระยะเวลาในการอยู่กับพรมนั้น, และราคาซื้อขายต้องเป็นที่พอใจกับทั้งสองฝ่าย, แต่หลักการลงทุนในเชิง Passion Investment นั้นสิ่งที่สำคัญคือเมื่อยังไม่มีการขายออกไปเราต้องพอใจที่จะอยู่กับสิ่งของนั้นนั้นโดยมั่นใจว่าทุกๆวันที่ผ่านไปจะมีการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสิ่งของที่เรานำเงินไปลงทุน โดยที่เราต้องไม่เดือดร้อน, และเห็นคุณค่าของสิ่งที่เรานำเงินไปลงทุนนั้นจริงๆ ตัวอย่างของพรมเปอร์เชียจากเมืองTehran  พรมเปอร์เชียจาก Tehran ที่นำมาแนะนำในวันนี้ เป็นพรม อายุกว่า 120 ปี มีสีที่เป็นป็นลายดอกไม้ ผลิตจากWool ขนแกะ บน Cotton Base สีพื้นเป็นสีน้ำเงินแซมด้วยสีเขียวอ่อน,สีส้ม, Boarder เป็นสีแดง, สำหรับ  Mood and Tone ของผืนนี้มีความหรูหราเป็นศิลปะที่ได้รับความนิยมของชนชั้นสูงในสมัยนั้น ความสมบูรณ์ของลวดลาย และสีสันที่ลงตัวอย่างมาก พรม เปอร์เชียจ้ะ Tehran ผืนนี้ ขนาดกำลังดีคือ กว้าง 1.35 เมตรคูณ ยาว 2.05 เมตร เมื่อวางในบ้าน…สามารถสะท้อนรสนิยมของเจ้าของบ้านให้อารมณ์ความรู้สึกในเชิงของผู้มีรสนิยม พรมเปอร์เชียร์จึงเป็นของแต่งบ้านชิ้นหนึ่งที่ทำให้ห้องนั้นดูสะดุดตาและอบอุ่นขึ้น การแต่งบ้านและความน่าหลงใหลในงานศิลปะ อีกทั้งพรมเปอร์เซียเป็นของหายาก และการลงทุนในเชิง Passion Investment สรุปทั้งหมดนี้รวมอยู่ในพรมเปอร์เชีย ที่เรานำมาบอกกล่าวกันครับ จิตรกร มงคลธรรมนักสะสมพรมเปอร์เซีย