นักสะสมมักเริ่มต้นจากการสะสมของที่รัก และจำนวนไม่น้อยก็เริ่มต้นที่การสะสมพระพุทธรูป ซึ่งไม่เพียงคุณค่าทางจิตใจในการสักการะบูชา แต่พุทธศิลป์ที่สะท้อนถึงเรื่องราวความศรัทธานั้นลึกซึ้งเข้าถึงหัวจิตหัวใจชาวพุทธ ผม เอ-จิตรกร มงคลธรรม ในฐานะนักสะสมพรมเปอร์เชียก็มีความชื่นชอบและหลงใหลในพุทธศิลป์เช่นกัน และอยากให้คอลัมน์นี้เป็นพื้นที่แนะนำ Art & Antiques ที่มีคุณค่าหายากเหมาะแก่การลงทุน หรืออย่างน้อยที่สุดคือต้องสร้างความสุขแก่ผู้ครอบครองได้ 

Art Appreciation ในการเสพงานศิลป์ ฉบับนี้ผมจึงนำเสนอเรื่องราวของพระพุทธรูปสมัยสุโขทัยที่งดงาม ยิ่งมองยิ่งให้ความรู้สึกอิ่มเอมใจ ซึ่งช่วงนี้ใครอยากได้พระพุทธรูปเพื่อการเก็บสะสมในเชิงศิลปะหรือการลงทุน ผมคิดว่าเหมาะมากครับ เนื่องจากของสะสมที่มีความสมบูรณ์แบบนี้ไม่ได้หาได้ง่ายๆ ทั่วๆ ไป นอกจากนี้ ยังมีเทวรูปพระศิวะและพระนางอุมา ศิลปะบาปวน มาให้ชมด้วย ที่สำคัญทุกชิ้นเป็นของแท้แน่นอนครับ

พระพุทธรูปสุโขทัย (สำริด) หมวดใหญ่ปางมารวิชัยหน้าตัก 24 นิ้วพุทธศตวรรษที่ 19

พระพุทธรูปสุโขทัย ได้รับยกย่องว่าเป็นพุทธประติมากรรมที่งดงาม 1 ใน 3 รูปแบบของพระพุทธรูปไทย ได้แก่ สุโขทัย เชียงแสน และอู่ทอง พุทธศิลป์ของพระพุทธรูปสุโขทัยมีความงามสมบูรณ์ลงตัว เป็นผลของพัฒนาการทางศิลปะที่ได้รับอิทธิพลจากลังกา โจฬะ และล้านนาในยุคต้นสมัยสุโขทัย ต่อมาถูกคลี่คลายและพัฒนาเรื่อยมาผ่านการสร้างสรรค์และความศรัทธาในพุทธศาสนาของช่างฝีมือ จนได้พุทธลักษณะของสุโขทัยบริสุทธิ์ที่ปราศจากอิทธิพลของศิลปะอื่น โดดเด่นด้วยพระพักตร์เรียวรูปไข่ รัศมีเป็นเปลว ปราศจากไรพระศก พระขนงโก่ง พระนาสิกโด่งเป็นสันงุ้มเล็กน้อย พระกรรณ ยาว พระโอษฐ์เล็กมีลักษณะคล้ายยิ้มน้อยๆ องค์ประกอบของพระพักตร์และพระวรกายได้สัดส่วน แสดงความหมายของพระพุทธเจ้าที่เปี่ยมด้วยเมตตาแฝงไว้ด้วยความสงบอิ่มเอิบ 

พระพุทธรูปสุโขทัยสำริดองค์นี้ สร้างขึ้นในสมัยพ่อขุนรามคำแหง เป็นพระหมวดใหญ่ (พระ 3 หมวดสมัยสุโขทัย ได้แก่ หมวดตะกวน หมวดใหญ่ หมวดกำแพงเพชร) ซึ่งหมวดใหญ่ถือเป็นยุคทองของศิลปะสุโขทัย มีลักษณะอ่อนช้อย งดงาม มีชีวิตชีวา โดดเด่นตามแบบพุทธลักษณะสุโขทัยบริสุทธิ์ ดังกล่าว อีกทั้งองค์นี้ยังมีสัดส่วนที่ดี เนื้อมวลสารสำริดสมบูรณ์ ไม่มีชำรุด ลักษณะการวางพระหัตถ์ การวางนิ้ว มุมปาก พระพักตร์ พระขนง พระโอษฐ์รับกันทั้งหมด พระอิริยาบถนั่งขัดสมาธิเต็ม จึงจัดว่าเป็นพระพุทธรูปโบราณอายุเก่าแก่กว่า 700 ปี ที่เลอค่า หาได้ยากยิ่งและเป็นที่นิยมอันดับต้นๆ ของนักสะสมเลยก็ว่าได้

เทพฮินดูประติมากรรมหินทรายศิลปะบาปวนพุทธศตวรรษที่ 16 

ความเชื่อในเทพฮินดูนั้นกลมกลืนกับชาวพุทธมาตั้งแต่สมัยสุโขทัยจวบจนถึงปัจจุบัน เทพฮินดูคู่นี้คือเทพอิศวรและพระนางอุมา เป็นประติมากรรมขอมโบราณ อายุเก่าแก่กว่า 900 ปี 

พระอิศวร หรือ พระศิวะ (องค์ซ้าย) ถือว่าเป็นเทพสูงสุดของชาวฮินดูที่เชื่อว่าเป็นผู้สร้างโลก เป็น 1 ใน 3 มหาเทพหรือตรีมูรติ ในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู (พระพรหม พระวิษณุ พระศิวะ) นอกจากเป็นเทพผู้สร้างแล้ว อีกภาคหนึ่งยังเป็นเทพผู้ทำลายด้วย ชาวฮินดูถือว่าท่านสร้างโลกใบนี้ขึ้นมาเองแต่เมื่อเกิดภัยพิบัติใดๆ ที่สุดจะแก้ไข ท่านก็จะมาหยุดความชั่วร้ายนั้นๆ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของชาวโลก เทพอิศวรองค์นี้เป็นประติมากรรมศิลปะบาปวนของขอม หรือเขมรที่เราคุ้นเคย สร้างขึ้นในพุทธศตวรรษที่ 16 แกะจากหินทรายประเภทเม็ดทรายขนาดกลาง ซึ่งช่างบรรจงแกะอย่างละเอียด ขัดแต่งให้เงางาม เก็บรายละเอียดอย่างวิจิตรลึกซึ้ง ประณีตทุกสัดส่วนของพระวรกายให้อารมณ์สรีระร่างของผู้อยู่เหนือมนุษย์ ลักษณะผ้านุ่งสั้น ขมวดปมหน้าและโจงหลังเป็นแบบอย่างที่ปรมาจารย์ศิลปะเขมรชาวฝรั่งเศสได้แยกแยะเป็นเอกลักษณ์เฉพาะแบบบาปวนอย่างชัดเจน อารมณ์ที่ช่างได้ถ่ายทอดไว้ในประติมากรรมองค์นี้แสดงให้เห็นถึงความเป็นเทพสูงสุดในความรู้สึกของชาวฮินดูอย่างแท้จริง

พระนางอุมา (องค์ขวา) เป็นเทพสตรีอันดับหนึ่งของฮินดู พระชายาของมหาเทพอิศวร พระมารดาของพระพิฆเนศ และเป็น 1 ใน 3 ของพระตรีศักติ มหาเทวีสูงสุด 3 องค์ในศาสนาฮินดู (พระแม่อุมา พระแม่ลักษมี พระแม่สรัสวดี) เทพอุมามีร่างอวตารหลายภาค ภาคสำคัญคือเทพทุรคาที่มีความดุดันเกรี้ยวกราดเพื่อมาดับทุกข์ที่เกิดจากมารร้ายมารังควานชาวโลก ผู้ที่เคารพนับถือจึงนิยมบวงสรวงเมื่อมีปัญหามีความทุกข์เพื่อขอให้ท่านมาปัดเป่าทำลายเหล่ามารให้สิ้นไป 

เทพอุมาองค์นี้เป็นประติมากรรมที่สร้างในพุทธศตวรรษที่ 16 เช่นกัน แกะจากหินทรายชั้นดีเม็ดเกล็ดทรายขนาดใกล้เคียงกับองค์มหาเทพอิศวร ช่างผู้แกะก็มีฝีมือใกล้เคียงกัน ความสมบูรณ์ของชิ้นงานเหมาะสมกันมาก มีความวิจิตรทัดเทียมกับองค์พระอิศวรที่เก็บรายละเอียดและขัดเงาได้ดีอย่างแทบไม่น่าเชื่อ 

ประติมากรรมโบราณเทพอิศวร-พระนางอุมา คู่นี้ แม้จะสร้างจากประติมากร 2 คน แต่มีฝีมือทัดเทียมกัน เป็นสมบัติล้ำค่าที่ตกทอดมาจนถึงวันนี้ โดยยังรักษาความสมบูรณ์ไว้มากที่สุด เมื่อชิ้นงานคู่นี้ได้มาอยู่เคียงคู่กันจึงเป็นภาพที่น่าศรัทธายิ่งนัก

Art & Antiques เป็นสิ่งมีคุณค่า สะท้อนความคิด และรสนิยมของผู้สะสม นอกจากให้คุณค่าต่อจิตใจแล้วยังเป็นช่องทางการลงทุนที่สร้างผลกำไรได้อีกทางหนึ่ง ผมมองว่าเพียงเรารู้จักคุณค่าของสะสมนั้น ทั้งเรื่องราว ประวัติศาสตร์ที่ผ่านกาลเวลาเป็นร้อยเป็นพันปี นั่นคือสิ่งที่น่าค้นหาและเป็นเสน่ห์สำหรับคนที่เข้าถึงความงามนั้น และหากท่านใดสนใจจะครอบครองโปรดติดต่อที่ 081 844 5303